Sanikul.p

อย่างที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันกระเบื้องยางเป็นที่นิยมในการปูพื้นเป็นอย่างมาก ซึ่งมีลวดลายให้เลือกมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลายไม้ ลายหินอ่อน ลายปูนขัดมัน สีพื้น แบบแผ่น แบบม้วน หลายคนเลือกกระเบื้องยางในการปูพื้นตกแต่งบ้าน เพราะราคาถูก คงทน ทำความสะอาดง่าย แถมยังให้ความสวยงามอีกด้วย แต่ก่อนที่จะเริ่มปูกระเบื้องยางเรามาทำความรู้จักกระเบื้องยางกันก่อน เพื่อที่จะนำไปใช้ง่ายได้อย่างถูกต้องและยืดอายุการใช้งานได้อย่างยาวนานนั่นเองครับ • ปูทับกระเบื้องเดิมได้เลย หากบ้านของคุณเคยปูพื้นด้วยกระเบื้องอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลารื้อถอนออกเลยค่ะ เพราะกระเบื้องยางลายไม้สามารถนำมาปูทับพื้นเดิมได้เลย แต่จะต้องใช้ปูนปาดเพื่อปิดร่องยาแนวก่อนนะครับ หรือหากเป็นพื้นเดิมแบบอื่นๆ เช่นพื้นปูน พื้นไม้ปาร์เก้ ก็สามารถปูทับได้เหมือนกัน เพียงแต่ต้องเป็นพื้นเรียบเท่านั้น • สามารถนำไปติดผนังหรือเพดานได้ กระเบื้องยางลายไม้ไม่ได้มีไว้แค่ปูพื้นเท่านั้นนะครับ แต่ยังสามารถนำไปติดผนังบ้านหรือเพดานได้อีกด้วย ซึ่งก็จะทำให้บ้านดูสวยน่าอยู่มากเลยล่ะ ส่วนการติดตั้งนั้นก็ไม่ยากเพียงแค่ใช้กาวยางที่มีความเหนียวสามารถยึดเกาะได้ดี ก็จะทำให้กระเบื้องยางลายไม้ได้ไปเกาะติดอยู่ตรงผนังบ้านหรือเพดานได้ย่างสวยงามแล้วล่ะ • มีอายุการใช้งาน 10-15 ปี เรื่องของอายุการใช้งานต้องยกนิ้วให้กระเบื้องยางลายไม้เลยค่ะ เพราะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 10-15 ปีเลยล่ะ แต่ก็ต้องดูที่ความหนาของชั้นเคลือบด้วยนะครับ เพราะยิ่งชั้นเคลือบหนาเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีอายุการใช้งานมากเท่านั้น แต่ก็อาจจะมีราคาแพงขึ้นตามความหนาของชั้นเคลือบเช่นกัน • ทนน้ำและทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี ดูแลรักษาได้ง่ายและยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งต่างจากพื้นไม้แบบอื่นๆ ที่มักจะไม่ทนน้ำ จึงมักจะต้องดูแลรักษามากไปพิเศษ และไม่สามารถเช็ดถูด้วยน้ำให้สะอาดได้นั่นเอง • ทนไฟได้ดี ช่วยลดความกังวลได้หากไฟติด [...]

สำหรับพื้นไม้ เป็นวัสดุที่ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย ก็ยังคงเป็นที่ถูกใจของเจ้าของบ้านและเหล่าบรรดานักออกแบบ เป็นเพราะวัสดุชนิดนี้ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่น และเป็นธรรมชาติ เมื่อเราคิดจะนำวัสดุชนิดนี้มาปูพื้นในบ้านของคุณแล้ว มีอะไรบ้างที่เราจะต้องคำนึงถึง วันนี้เราจึงมีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากกันครับ 1.) กำหนดพื้นที่ที่ต้องการใช้พื้นไม้ ขั้นตอนนี้จะต้องคิดตั้งแต่ตอนออกแบบบ้าน เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เห็นภาพรวม รวมไปถึงคาดการงบประมาณ ในการสร้างหรือรีโนเวทบ้านได้ 2.) เลือกโทนสีและลายไม้ จากสไตล์ที่ตัวเองชอบ สไตล์การออกแบบ ส่งผลต่อการเลือกสีและลวดลาย หากต้องการตกแต่งในสไตล์ โมเดิร์น(Modern) หรือ มินิมอล(Minimal) ให้เลือกสีโทนอ่อนมีลวดลายไม่เด่นมากนักหรือหากต้องการตกแต่งสไตล์ร่วมสมัย ก็สามารถเลือกสีของไม้ได้หลากหลาย แล้วแต่ความชอบเลยครับ 3.) เลือกประเภทของพื้นไม้ พื้นไม้มีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น พื้นไม้สัก พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ พื้นไม้ลามิเนต เป็นต้น 4.) ลำดับของการเข้างานพื้น งานพื้นควรจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการก่อสร้าง หรือรีโนเวท การที่เข้างานพื้นเป็นลำดับสุดท้ายจะเป็นการช่วยลดโอกาสที่ช่างจะทำพื้นเสียหาย 5.) ลองวางพื้นไม้เพื่อดูสีและลวดลายก่อนติดตั้งจริง ก่อนทำการติดตั้งพื้นไม้ ควรนำมาเรียงบนพื้นที่หน้างานจริงก่อน เพื่อเป็นการเช็คในเรื่องของสี และลวดลาย ว่าเป็นอย่างที่เราต้องการหรือไม่ วิธีการนี้จะทำให้ได้สีและลวดลายตามที่เราต้องการก่อนทำการติดตั้งจริงนั่นเอง _____________ [...]

สำหรับกระเบื้องยาง เป็นวัสดุอีกชนิดที่เรานิยมใช้ในการปูพื้น เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความสวยงาม ทนทานพอควรและมีราคาที่ไม่แพง อีกทั้งยังสามารถปูทับพื้นวัสดุเดิม (ที่เป็นพื้นเรียบได้ระดับ เช่น พื้นซีเมนต์ขัด) ได้ทันที โดยไม่ต้องทำการรื้อพื้นเก่าออก อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้ไประยะหนึ่ง ตัวกระเบื้องยางบางจุดอาจจะเกิดความเสียหายจากการใช้งาน ซึ่งจำเป็นต้องมีการซ่อม ซึ่งวันนี้ Rainbow จะพามาดูวิธีซ่อมกระเบื้องยางปูพื้นภายในบ้านด้วยตัวเองกัน 1.) สำรวจความเสียหายของพื้นกระเบื้องยางว่ามีจุดไหนที่เราจะเป็นจะต้องเปลี่ยน เพื่อที่จะได้สามารถเตรียมซื้อกระเบื้องยางลายเดิมมาเปลี่ยนได้อย่างพอเหมาะ หรือ หากมีของเดิมเหลือและมีขนาดพอที่จะเปลี่ยนได้ ก็จะได้ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลาไปซื้อของใหม่ 2.) เตรียมวัสดุและอุปกรณ์ในการทำงานได้แก่ แผ่นกระเบื้องบางที่เราจะใช้เปลี่ยนแทนของเดิม แผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ กาวยางสำหรับติดกระเบื้องกับพื้น (การปูกระเบื้องยาง สามารถดูเพิ่มเติมได้จากบทความ 8 ขั้นตอน กระเบื้องยางปูเอง 8 ขั้นตอน กระเบื้องยางปูเอง ได้) เกรียงโป๊ว เตารีด และ กระดาษทราย เบอร์ 2 และค้อนยาง 3.) ใช้แผ่นฟอลย์ปิดทาบลงบนกระเบื้องยางแผ่นที่เราต้องการเปลี่ยน แล้วใช้เตารีดปรับความร้อนปานกลาง รีดลงไป เพื่อให้แผ่นกระเบื้องยางอ่อนตัว 4.) ใช้คัดเตอร์กรีดตัดเอาแผ่นกระเบื้องยางที่เราต้องการเปลี่ยน ใช้เกรียงโป๊วแซะกระเบื้องยางส่วนที่เสียหายออก แล้วขูดเอาคราบกาวที่ติดพื้นออกให้สะอาด 5.) [...]

วันนี้ Rainbow จะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จัก และศึกษาข้อควรรู้ที่สำคัญของ พื้นกระเบื้องยาง ในส่วนของขั้นตอนการติดตั้ง และวิธีการดูแลรักษากระเบื้องยาง สำหรับเป็นข้อมูลสำหรับคนที่ต้องการตกแต่งบ้าน เพื่อเป็นวัสดุทางเลือกอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะกับการนำไปตกแต่งพื้นบ้านของท่าน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาชมกันเลยครับ ✔การปรับพื้นก่อนการติดตั้ง 1.) ปรับระดับด้วยการเทปูน เป็นวัสดุที่ใช้เพื่อเตรียมพื้นผิวคอนกรีตหรือซีเมนต์ที่มีความขรุขระหรือคลื่นให้เรียบได้ระดับเดียวกัน โดยจะมีความหนาจากพื้นเดิมประมาณ 3 mm. มีคุณสมบัติสามารถยึดเกาะได้ดีกับผิวซีเมนต์และสามารถไหลปรับผิวหน้าได้เองโดยไม่ต้องใช้เกรียงปาดช่วย ผิวหน้าที่ได้จะมีความเรียบเนียนเหมาะสำหรับการเตรียมพื้นผิวซีเมนต์เพื่อปูพรมปูไม้ลามิเนต ปูไม้ปาร์เก้ปูกระเบื้องยาง วิธีการคือ - ทำความสะอาดพื้นและพรมน้ำบนพื้นที่ต้องการปรับระดับ เพื่อให้พื้นคอนกรีตชุ่มน้ำก่อน - ทาน้ำยารองพื้นปูนเก่ากับพื้นปูนใหม่ - เทปูน/ฉาบปูนปรับระดับและทิ้งไว้ให้แห้ง - ฉาบแต่งหน้าให้เรียบหรือขัดด้วยเครื่องขัดก่อนปูพื้นด้วยวัสดุกระเบื้องยาง 2. ปรับผิวหน้าด้วยการ Slide ส่วนใหญ่จะเป็นการปิดผิวหน้าเดิมที่มีลักษณะขรุขระมีคลื่นไม่มากหรือปิดร่องยาแนวกระเบื้อง เพื่อให้การปูพื้นกระเบื้องเรียบเนียน การปรับผิวหน้าด้วยการ Slide ทำโดยใช้ปูน ยิปซั่ม กาว และน้ำในสัดส่วนที่พอดี ปรับแต่งผิวหน้าด้วยการเกลี่ย เพื่อให้ผิวที่ขรุขระ หรือร่อง ให้เท่ากับพื้นผิวปกติ การปรับผิวด้วยวิธีนี้ไม่สามารถปรับระดับหรือแก้ไขความเป็นคลื่นของพื้นผิวเดิม หากผิวหน้ามีความขรุขระมากหรือต่างระดับ เรานิยมใช้วิธีปรับระดับด้วยการเทปูน Mortar Self - Leveling มากกว่า [...]

ใครหลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดกันว่าการที่เราจะตกแต่งบ้านให้หรูนั้น จะต้องใช้เงินเยอะๆในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งในราคาแพงๆ ซึ่งจริงๆแล้วมีเทคนิคมากมานหลากหลายในการสร้างความหรูให้กับบ้านของเรา วันนี้ Rainbow จะพามาดูเทคนิคเด็ดในการแต่งบ้านให้หรูโดยใช้งบประมาณที่ต่ำกันครับ 1.) กำหนดจุดโฟกัส สำหรับการกำหนดจุดโฟกัสนั้น คือการหาจุดดึงดูดสายตาในห้อง ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือหยิบสถาปัตยกรรมที่มีอยู่แล้วในบ้านมาใช้ เช่น หากมีหน้าต่างบานใหญ่ที่ดึงดูดแสงธรรมชาติ ก็ให้ตั้งโซฟาเพื่อสร้างจุดสนใจในตำแหน่งนั้นเลย หรืออาจเรียกความสนใจด้วยโต๊ะ โคมไฟ หรือของประดับอื่น ๆ ที่โดดเด่นก็ได้ 2.) เลือกสีโทนอบอุ่น ในการเลือกใช้สีนั้นนสีก็มีผลต่อความหรูหราเช่นกัน โดยให้เลือกที่สีที่เข้ากับสไตล์การตกแต่ง เช่น สีโทนอุ่นอย่างแดง ส้ม เหลือง จะสร้างบรรยากาศสบาย ๆ และเป็นกันเอง ในขณะที่สีโทนเย็นอย่างเทา เขียว ฟ้า จะเกี่ยวข้องกับความสงบและทำให้ห้องดูกว้างขวางขึ้นครับ 3.) การเลือกที่นั่ง สำหรับการเลือกที่นั่งนั้นควรโฟกัสที่เก้าอี้หรือโซฟา ด้วยการเลือกใช้วัสดุรวมถึงผ้าหุ้มเบาะคุณภาพสูง โดยอย่าลืมคำนึงถึงหมอนอิงให้มีความหลากหลายทั้งรูปแบบและผิวสัมผัสด้วย เพราะหากเลือกได้คุณภาพดีแล้วจะทำให้บ้านของเราดูหรูขึ้นมาอย่างเก็นได้ชัด 4.) สร้างเลเยอร์ให้พื้นห้องโดยใช้พรม การใช้พรมปูพื้นไม่เพียงแต่เพิ่มเลเยอร์ให้กับพื้นห้องเท่านั้น แต่ยังช่วยให้อุ่นเท้าในวันที่อากาศเย็น ๆ ได้อีกด้วย โดยลองพิจารณาเลือกพรมที่หนานุ่มในโทนสีธรรมชาติ หรืออาจเป็นลวดลายคลาสสิกตะวันออกเพื่อสร้างความหรูหราแบบง่าย ๆ 5.) นำสิ่งของเก่าๆมาตกแต่ง การเลือกสิ่งของเก่าๆมาตกแต่งนั้นถือว่าเป็นตัวสร้างความหรูหราไปอีกแบบครับ ด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์ย้อนยุค [...]

สำหรับการเลือกกระเบื้องถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม และถ้าหากพูดถึงกระเบื้องนั้น สิ่งที่จะต้องนึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของโทนสี และ ลวดลาย เพราะมีแบบให้เลือกกันอย่างมากมาย แต่หากเพื่อนๆ คนไหนที่เลือกไม่ถูก วันนี้ Rainbow มีเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกกระเบื้องและโทนสีให้เหมาะสมกับแต่ละห้องมาฝากกันครับ 1.) ห้องครัว ในส่วนของห้องครัวนั้นอย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าต้องเผชิญกับสิ่งสกปรกอยู่บ่อยครั้ง อาทิ คราบน้ำมัน และ เศษอาหารต่างๆ ซึ่งกระเบื้องที่เลือกใช้นั้น ควรเป็นโทนสีเข้ม เพื่อลดความเลอะเทอะของสิ่งสกปรก แต่หากต้องการเพิ่มความโดดเด่นนั้น ก็สามารถเลือกตกแต่งกระเบื้องในบริเวณผนังเพิ่มเติมได้ โดยเลือกใช้เป็นกระเบื้องที่มีขนาดเล็ก ส่วนโทนสีนั้น แนะนำเป็น โทนสีส้ม สีเหลือง และสีครีม เพราะเป็นสีที่ช่วยในการเจริญอาหารนั้นเองครับ 2.) ห้องนั่งเล่น สำหรับห้องนั่งเล่นนั้นถือเป็นห้องที่เป็นหน้าเป็นตาของบ้านกันเลยทีเดียว เพราะเป็นห้องที่ไว้สำหรับต้อนรับผู้มาเยือน หรือ พบปะพูดคุย ซึ่งการตกแต่งนั้น ควรให้ความรู้สึกสบายๆ และ อบอุ่น ฉะนั้นกระเบื้องที่เลือกใช้นั้น ควรเป็นโทนสีอ่อน ที่มีลวดลายไม่มากนัก หากจะสร้างจุดเด่นด้วยลวดลายหรือการตีกรอบขนาดใหญ่เป็นบางจุด เพื่อช่วยเพิ่มความโดดเด่น สะดุดตา ก็สามารถทำได้เช่นกัน 3.) ห้องนอน สำหรับห้องนอนนั้นถือเป็นอีกหนึ่งห้องที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ ซึ่งภายในห้องนอนนั้น สามารถเลือกใช้โทนสีของกระเบื้องได้ตามใจชอบเลย แต่ไม่ควรที่จะมีลวดลายมากจนเกินไป [...]

ก่อนการตัดสินใจจะเลือกกระเบื้องนั้นไม่ควรจะดูแค่ลายสวยถูกใจเท่านั้น เราควรที่จะดูคุณสมบัติ ประเภท ซึ่งเรื่องเหล่านี้เราไม่ควรมองข้ามไป วันนี้ Rainbow จะพามาดูสิ่งที่ควรู้ก่อนเลือกกระเบื้องกันครับ 1.) เลือกตามประเภทของกระเบื้องให้เหมาะสม ต้องรู้ก่อนว่ากระเบื้องทั่วไปแบ่งเป็น 4 ประเภท ตามชนิดและรูปแบบ ดังนี้ - เซรามิก (Ceramic) เป็นกระเบื้องที่ผ่านการเผา 1 หรือ 2 ครั้ง ตามลักษณะการใช้งาน และเคลือบผิวทำลวดลายเป็นกระเบื้องที่มีขนาดหลากหลายและมีโทนสีสไตล์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้มากที่สุด - โมเสก (Mosaic) เป็นกระเบื้องชิ้นเล็ก ๆ มาติดบนแผ่นตาข่ายรอง เหมาะกับไปติดบนพื้นที่มีขนาดเล็กและโค้งมน หรือสระว่ายน้ำ - ดินเผา (Earthenware) เป็นงานเผาด้วยเทคนิคแบบดั้งเดิม ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ มีทั้งแบบเคลือบเงาและไม่เคลือบเงาเหมาะกับงานตกแต่งสไตล์ธรรมชาติ รีสอร์ท สปา - แก้ว (Glass Mosaic) เป็นกระเบื้องที่ทำจากชิ้นงานแก้วมาขึ้นรูป ภายในตกแต่งด้วย ลวดลายพิมพ์ หรือตกแต่งสีสันลวดลายภายใน ทำให้ลวดลายภายในอยู่ทนทานกว่าลายพิมพ์บนพื้นผิวหน้าอย่างกระเบื้องประเภทอื่น ๆ 2.) เลือกตามลักษณะของพื้นที่ติดตั้ง [...]

สำหรับงานปูกระเบื้องภายในบ้านนั้น มีขั้นตอนและรายละเอียดมากมาย ตั้งแต่การเลือกใช้เทคนิควิธีการปูที่เหมาะสมกับชนิดกระเบื้อง ทักษะ ความชำนาญของช่างปู รวมถึงความปราณีตละเอียดอ่อน จึงจะได้ผลงานแนวกระเบื้องที่ตรงไม่มีรอยเหลื่อม กระเบื้อง เรียบสนิทกับพื้นเป็นระนาบเดียวกันและภายในไม่กลวงโหว่ แต่หากเราได้ช่างที่ขาดความเชี่ยวชาญ ทำงานหยาบ มักส่งผลให้พื้นกระเบื้องไม่ได้ระดับ หลุดล่อน ไปจนถึงโก่งตัวหรือระเบิดภายหลังได้ และหลายคนก็มักจะไม่ทราบและไว้วางใจช่างเหล่านี้ จึงไม่ได้มีการมาตรวจสอบเช็คงานด้วยตัวเอง ซึ่งกว่าจะมารู้ตัวอีกทีก็เกิดปัญหาก็อาจจะต้องสั่งรื้อหมดทั้งผืน วันนี้ Rainbow มีวิธีตรวจสอบง่ายๆ งานปูกระเบื้องภายในบ้านด้วยตัวเองที่ใครก็สามารถทำได้ มาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง 1.) เช็คด้วยตาเปล่า เราควรสังเกตวิธีการปูกระเบื้องของช่างที่เราจ้างมาว่าใช้เทคนิคแบบไหน เช่น ปูแบบใช้ปูนทราย หรือใช้กาวซีเมนต์เป็นตัวประสาน เพราะวัสดุ กระเบื้องที่แตกต่างกันย่อมใช้เทคนิคแตกต่างกันไปตามชนิดกระเบื้องนั้นๆ ตัวอย่างเช่น กระเบื้องเซรามิก แผ่นเล็กทั่วไป สามารถผสมปูนทรายมาปูกระเบื้องได้ แต่หากเป็นแผ่นแกรนิโตขนาดใหญ่ 60 cm ขึ้นไป ช่างต้องใช้กาวซีเมนต์มาแทนปูนทราย กาวซีเมนต์จะยึดแน่นและเหมาะสมกับกระเบื้องแผ่นใหญ่อย่าง แกรนิโตครับ 2.) ใช้อวัยวะทดสอบความเรียบ ต้องบอกเลยละครับว่าวิธีนี้ก็ง่ายมากๆ เพียงใช้มือลูบไปตามแผ่นกระเบื้องเพื่อทดสอบความเรียบได้ แต่ก็ต้อง ระวังเรื่องความสะอาดและป้องกันมือจากเศษกระเบื้องเศษปูนด้วย หากตรวจสอบบริเวณพื้นให้ใส่ รองเท้าผ้าใบแล้วเดินลากเท้าไปเป็นแนวตรง จากนั้นเดินวนกลับมาจนทั่วทั้งห้อง หากพื้นเสมอกันก็จะเดิน ราบรื่นไม่มีจุดสะดุด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ติดชิดๆ จะรู้สึกได้ชัดเจน แต่ขอย้ำนะครับว่าข้อนี้เป็นการเช็คแบบคร่าวๆเท่านั้น [...]

สำหรับรอยขีดข่วนบนพื้นไม้ เป็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่พบเจอและยากที่จะขจัดออกไป แต่อย่าเพิ่งกังวลกันไปครับ วันนี้ Rainbow จะพามาดู เคล็ดลับลบรอยขีดข่วนบนพื้นไม้กันครับ 1.) ฝอยขัดหม้อ สำหรับฝอยขัดหม้อนั้น ใช้สำหรับรอยขีดข่วนที่ไม่ลึกมาก ซึ่งวิธีการก็ไม้ยากเลยครับ เพียงนำฝอยขัดหม้อแบบที่เป็นเส้นใยบางๆ นำมาถูตรงบริเวณรอยต่างๆ ไปตามลายเนื้อไม้ หลังจากนั้นหาผ้าชุบน้ำสะอาด บิดให้หมาดแล้วเช็คทำความสะอาดอีกครั้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ 2.) กระดาษทราย ในส่วนของกระดาษทราย จะใช้สำหรับรอยที่ค่อนข้างลึก โดยวิธีการนั้นเพียงนำกระดาษทรายเบอร์ 120 หรือ P120 มาขัดตรงบริเวณที่เป็นรอย ไปตามลายไม้ หลังจากขัดเสร็จใช้น้ำยาเคลือบเงาทับ แค่นี้พื้นไม้ของเราก็จะกลับมาสวยงามอีกครั้ง 3.) เกรียงพลาสติก สำหรับเกรียงพลาสติ๊กนั้นเพียงเราใช้เกรียงปาดสีโป๊วไม้ลงไปบริเวณที่มีรอยชีดช่วน โดยหาสีที่ใกล้เคียงกับพื้นไม้ให้มากที่สุด หลังจากนั้นนำกระดาษทรายเบอร์ 180 มาขัดส่วนเกินของน้ำยาเคลือบออก เป็นอันใช้ได้เรียบร้อยครับ เห็นไหมละครับว่า 3 เคล็ดลับนี้สามารถทำได้เองกันง่ายๆเลย และหากเพื่อนๆมีวิธีที่นอกเหนือจากนี้ ก็สามารถคอมเม้นใต้โพสนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกันได้เลยจ้า _____________ Rainbow Decor Expert #ลบรอย #ขีดข่วน #พื้นไม้

หากบ้านของเรานั้นมีแสงธรรมชาติเพียงเล็กน้อย สิ่งที่เราควรทำคือการตกแต่งให้สว่างขึ้น เพราะการอยู่ในที่มืดส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบั่นทอนความรู้สึกของผู้อยู่อาศัย วันนี้ Rainbow จะพามาดูเทคนิคเล็กๆน้อยในการแต่งบ้านให้ดูสว่างขึ้นครับ 1.) ติดตั้งไฟตามตำแหน่งต่างๆ สำหรับการติดตั้งไฟตามตำแหน่งต่างๆนั้น หากติดเพียงตำแหน่งเดียวที่เหนือศรีษะไม่อาจช่วยให้ห้องดูสว่างขึ้นได้ โดยเฉพาะห้องทึบๆ ยกตัวอย่างเช่น ภายในห้องนอน จำเป็นต้องมีไฟหัวเตียงอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของเตียงนอน และติดไฟเหนือห้องแต่งตัวด้วยเช่นกัน ถ้าห้องนอนของคุณกว้างมากพอที่จะเติมเก้าอี้หรือโซฟาชวนทิ้งตัว ก็อย่าลืมเพิ่มโคมไฟตั้งพื้นหรือโคมไฟตั้งโต๊ะไปเพิ่มด้วยเช่นกัน 2.) ตกแต่งด้วยต้นไม้ การแต่งห้องด้วยต้นไม้นั้น เป็นการเติมความเป็นธรรมชาติให้กับห้อง และช่วยทำให้พื้นสีเข้ม และทางเดินแคบๆ ดูดีขึ้นเป็นกอง ลองเลือกต้นไม้ที่รูปทรงเก๋ๆ ปังๆ ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี กับแจกันสีขาว ตั้งให้กลมกลืนกับพื้นผนังถึงแม้จะใหญ่แต่ก็ไม่เทอะทะครับ 3.) ใช้กระจกเงา กระจกช่วยขยายขนาดห้องเล็กๆ ให้ดูกว้างขึ้นได้ แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า กระจกยังช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ห้องดีแท้ หากเลือกตำแหน่งการวางกระจกให้ดี ห้องจะสว่างขึ้นไปอีก และถึงแม้ว่าคุณจะติดกระจกบนผนังไปแล้ว คุณจะแต่งกระจกเพิ่มเติมในห้องอีกก็ได้ อย่าง โต๊ะกาแฟที่ท็อปด้วยกระจก เป็นต้น 4.) ใช้สีขาวเป็นหลัก วิธีนี้ก็ง่ายๆครับ เพียงทำทุกอย่างให้ขาว ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ผนังห้องและเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งของใช้ต่างๆ เป็นสีขาวล้วนไว้นั่นแหละดี แล้วตกแต่งเพียงชิ้นเล็กๆ [...]