ก่อนการตัดสินใจจะเลือกกระเบื้องนั้นไม่ควรจะดูแค่ลายสวยถูกใจเท่านั้น เราควรที่จะดูคุณสมบัติ ประเภท ซึ่งเรื่องเหล่านี้เราไม่ควรมองข้ามไป วันนี้ Rainbow จะพามาดูสิ่งที่ควรู้ก่อนเลือกกระเบื้องกันครับ

1.) เลือกตามประเภทของกระเบื้องให้เหมาะสม
ต้องรู้ก่อนว่ากระเบื้องทั่วไปแบ่งเป็น 4 ประเภท ตามชนิดและรูปแบบ ดังนี้
– เซรามิก (Ceramic)
เป็นกระเบื้องที่ผ่านการเผา 1 หรือ 2 ครั้ง ตามลักษณะการใช้งาน และเคลือบผิวทำลวดลายเป็นกระเบื้องที่มีขนาดหลากหลายและมีโทนสีสไตล์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้มากที่สุด
– โมเสก (Mosaic)
เป็นกระเบื้องชิ้นเล็ก ๆ มาติดบนแผ่นตาข่ายรอง เหมาะกับไปติดบนพื้นที่มีขนาดเล็กและโค้งมน หรือสระว่ายน้ำ
– ดินเผา (Earthenware)
เป็นงานเผาด้วยเทคนิคแบบดั้งเดิม ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ มีทั้งแบบเคลือบเงาและไม่เคลือบเงาเหมาะกับงานตกแต่งสไตล์ธรรมชาติ รีสอร์ท สปา
– แก้ว (Glass Mosaic)
เป็นกระเบื้องที่ทำจากชิ้นงานแก้วมาขึ้นรูป ภายในตกแต่งด้วย ลวดลายพิมพ์ หรือตกแต่งสีสันลวดลายภายใน ทำให้ลวดลายภายในอยู่ทนทานกว่าลายพิมพ์บนพื้นผิวหน้าอย่างกระเบื้องประเภทอื่น ๆ

2.) เลือกตามลักษณะของพื้นที่ติดตั้ง ซึ่งแบ่งเป็น
– Floor Tile
เหมาะสำหรับปูพื้นเพราะแข็งแรง และรับน้ำหนักได้มากเป็นพิเศษ
– Wall Tile
ซึ่งผ่านการเผา 2 ครั้ง จึงให้สีที่สวย เงางาม และมีน้ำหนักเบา แต่ไม่แข็งแรง รับน้ำหนักได้น้อย จึงเหมาะกับงานบุผนัง
ติดตั้งได้ทั้ง Floor Tile และ Wall Tile สำหรับตกแต่งกรุยเชิง มีหลากหลายแบบตามการตกแต่งที่ต่างกันไป

3.) เลือกตามขนาดของแผ่น
โดยขนาด ความกว้าง X ยาว ของกระเบื้องที่ระบุนั้น เป็นทั้งหน่วยนิ้ว และเซนติเมตร ถ้าละเอียดก็วัดกันเป็นมิลลิเมตรเลยทีเดียว ซึ่งในแต่ละบริษัทที่จำหน่ายนั้นมีแบบและขนาดที่ต่างกัน จึงควรสังเกตให้ดี หากต้องการปูสลับสีและลายในห้องเดียว ต้องดูให้แผ่นมีขนาดเท่ากันเพื่อรอยต่อที่สวยงาม โดยสามารถแบ่งตามลักษณะการติดตั้ง ดังนี้
– กลุ่ม Floor Tile
ขนาดที่นิยมผลิต 8×8 นิ้ว, 12×12 นิ้ว, 13×13 นิ้ว, 16×16 นิ้ว, 24×24 นิ้ว
– กลุ่ม Wall Tile
ขนาดที่ผลิต 8×8 นิ้ว, 8×10 นิ้ว, 10×16 นิ้ว, 12×24 นิ้ว
สำหรับตกแต่งกรุยเชิงมีหลากหลายแบบตามการตกแต่งที่ต่างกันไป ตั้งแต่ขนาด 1/2 นิ้ว – 4×8 นิ้ว, 10 นิ้ว 16 นิ้ว, 24 นิ้ว

4.) เลือกตามเกรดของสินค้า
แบ่งกันตามความผิดพลาดในการผลิตของขนาด ความหนา พื้นผิว น้ำหนัก การดูดซึมน้ำ สีสัน และลวดลาย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น เกรด A หรือ Premium, เกรด B หรือ Commercial และเกรด C ตรงนี้มีผลกับความสวยงาม และราคาจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรตัดสินใจเพราะช่วยประหยัดงบได้

5.) การเลือกสี
สำหรับการเลือกสีนั้นไม่เพียงแต่เลือกสีของกระเบื้องในรุ่นนั้น ๆ ให้ถูกใจแล้ว ต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของกระเบื้องด้วยว่าการผลิตกระเบื้องแต่ละครั้งต้องผ่านขั้นตอนการเผา ซึ่งจะทำให้ได้สีที่ต่างกันบ้าง ดังนั้นหากต้องการให้สีที่เท่ากันทุกแผ่น แนะนำให้ซื้อที่ผลิตในล็อตเดียวกัน

🌈 ที่สำคัญเราควรจด รุ่นสินค้า ปีผลิต หรือเก็บรหัสที่ข้างกล่องไว้ด้วย เผื่อกระเบื้องที่ปูไปแล้วเกิดความเสียหาย จะได้สามารถหาซื้อใหม่ได้ และเทียบเฉดสีและล็อตในการผลิตให้ได้เฉดสีที่ตรงกัน เพราะอย่าลืมว่าการเผากระเบื้องในแต่ละเตา จะมีค่าความต่างของเฉดคลาดเคลื่อนอยู่บ้างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นหากเทียบล็อตการผลิตให้ใกล้เคียงที่สุดก็อุ่นใจว่าสีก็จะไม่เพี้ยนมากจนเกินไปครับ

_____________

Rainbow
Decor Expert
#กระเบื้อง