About Sanikul P

This author has not yet filled in any details.
So far Sanikul P has created 55 blog entries.

วิธีดูแลพรมง่ายๆด้วยตนเอง

2021-01-28T13:38:55+07:00

อย่างที่ทราบกันดีว่า พรม เป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองและเชื้อโรคต่างๆ มากมาย ดังนั้นเราจึงควรดูแลและใส่ใจพรมอย่างเป็นประจำเพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรก และในส่วนของการดูแลพรมนั้นก็ไม่ยากอย่างที่คิดไว้ครับ วันนี้ Rainbow จะพามาดูวิธีดูแลพรมง่ายๆด้วยตนเองกันครับ 1.) ดูดฝุ่น เป็นวิธีที่ง่ายๆ เพียงดูดฝุ่นบริเวณพรมให้สะอาด เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆออกไป แต่ผมขอแนะนำ ให้ฉีดน้ำยาสำหรับพรมโดยเฉพาะก่อนที่เราจะเริ่มดูดฝุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยดับกลิ่นพรมและไม่ทำให้พรมของเรานั้นมีกลิ่นอับอีกด้วย 2.) ทำความสะอาดอย่างเป็นประจำ การทำความสะอาดอย่างเป็นประจำถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับพรม เพราะยิ่งเราทำความสะอาดก็ยิ่งช่วยลดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่ในพรมไปในตัว ซึ่งควรทำอย่างต่ำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์จะดีมากครับ 3.) น้ำส้มสายชู สำหรับการใช้น้ำส้มสายชูนั้น จะใช้ก็ต่อเมื่อเราทำอาหารหรือเครื่องดื่มหกใส่พรม เพราะคุณสมบัติของน้ำส้มสายชูนั้นสามารถขจัดคราบฝังแน่นที่ติดอยู่กับพรมได้ โดยวิธีการก็ไม่ยากครับ เพียงหากระดาษเช็ดมาเช็ดคราบออกเป็นลำดับแรก หลังจากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่า แล้วเช็ดคราบอีกครั้ง ทำวนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคราบจาง และสุดท้ายทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่น ก็เรียบร้อยครับ 4.) จ้างมืออาชีพ การจ้างมืออาชีพถือเป็นขั้นตอนที่ดีที่สุด เพราะว่าเครื่องทำความสะอาดพรมโดยเฉพาะของมืออาชีพ จะช่วยให้พรมของเรานั้นสะอาดแบบล้ำลึก ปราศจากฝุ่น แถมยังช่วยกำจัดเชื้อราที่ซ่อนตัวอยู่ในพรมได้อีกด้วยครับ _____________ Rainbow Decor Expert #พรม #ดูแล #บ้าน [...]

วิธีดูแลพรมง่ายๆด้วยตนเอง2021-01-28T13:38:55+07:00

แต่งบ้านยังไง ? ไม่ต้องใช้เงิน

2021-01-28T13:31:00+07:00

เมื่อคุณอยากตกแต่งบ้าน ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือเรื่องเงิน และถ้าหากมีความต้องการที่จะตกแต่งหลายๆห้อง ก็จำเป็นเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้งบประมาณสูง แต่หากเรามีงบจำกัดหรือไม่มีงบ เราก็สามาถเลือกแต่งบางห้องได้ โดยไม่ต้องเสียเงินแค่ปรับอะไรเล็กน้อย ก็ได้ลุคใหม่แล้ว ลองมาดูกันว่า เราจะสามารถปรับเปลี่ยนอะไรโดยไม่ต้องใช้เงินได้บ้าง 1. จัดการกับผ้าม่าน บ้าน หรือห้องที่มีเพดานเตี้ย เราสามารถพรางตาให้ดูเพดานสูงขึ้นได้ด้วยม่าน โดยเฉพาะม่านหน้าต่าง หากเราติดราวม่านให้อยู่สูงขึ้นไปกว่ากรอบหน้าต่าง และให้ความยาวม่าน ลงมาถึงพื้น เพียงแค่นี้ ห้องก็จะดูหรูขึ้น ดูว่าเพดานสูงขึ้น 2. ใช้กระจกช่วย กระจกเป็นอุปกรณ์แต่งบ้าน ที่ทำให้บ้านดูกว้างขึ้น สว่างขึ้น แถมยังมีประโยชน์ใช้สอยอีกด้วย หากเราเลือกกระจกบานใหญ่ ที่มีกรอบสวยงาม จะช่วยให้บ้านดูมีศิลปะมากขึ้น 3. เพิ่มสีสันให้กับห้อง แค่เราเอาหมอนสีสันสดใสไปวางไว้บนเก้าอี้ริมหน้าต่าง ก็ทำให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาแล้ว 4. จัดโต๊ะอย่างมีเทคนิค หากโต๊ะมีขนาดเล็กหรือดูไม่สวยงามนัก เราก็สามารถหาผ้าสวย ๆ มาคลุมได้ เลือกลาย เลือกผ้า ที่ดูน่ารัก หรือเราอาจจะนำผ้าม่านเก่า มาใช้เป็นผ้าคลุมโต๊ะได้เช่นกัน 5.เลือกดีไซน์ในห้องให้เหมาะสม หากห้องของเราดูไม่มีจุดเด่น เราก็สามารถเลือกแต่งจุดใดจุดหนึ่งให้เด่นขึ้นมาได้ เช่นบริเวณที่ตั้งทีวี หรือติดกระจก ติดงานศิลปะ บริเวณโต๊ะวางทีวี หรืออาจจะหาอะไรเด่น ๆ [...]

แต่งบ้านยังไง ? ไม่ต้องใช้เงิน2021-01-28T13:31:00+07:00

4 วิธีแต่งบ้านไม่ตกเทรนด์

2021-01-28T13:30:16+07:00

การแต่งบ้านนั้นถือเป็นเรื่องที่ใครหลายๆคนชอบและสามารถทำได้ตลอดเวลา วันนี้ Rainbow ขอเสนอวิธีแต่งบ้านในสไตล์ใหมjที่ไม่ตกเทรนด์กัน มาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้าง 1.) วัสดุจากธรรมชาติ การนำวัสดุจากธรรมชาติมาใช้ เช่น ไม้ หิน แก้ว กระจก โลหะ และผ้าธรรมชาติ มาตกแต่งภายใน จะได้รับความนิยมสูงขึ้น เนื่องจากเข้าถึงผู้คนได้ง่าย ช่วยให้บ้านอบอุ่น มีความเป็นธรรมชาติ และชวนให้นึกถึงสิ่งแวดล้อมภายนอก โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ก็มักจะมีการนำวัสดุจากธรรมชาติมาผสมผสานกับการแต่งบ้านให้เห็นเสมอ จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่า การนำวัสดุจากธรรมชาติมาใช้นั้นจึงไม่มีวันตกเทรนด์ 2.) การตกแต่งสไตล์หรู ต้องบอกเลยความหรูหรานั้น เป็นอีกสิ่งที่ไม่มีวันตกเทรนด์เลย โดยการตกแต่งแบบผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัยและมุ่งไปที่การจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัว และเลือกใช้โทนสีที่มีระดับ ใช้กระจกหลายบาน ใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงหรู รวมถึงของตกแต่งจากโลหะ หินอ่อน ไม้แท้ และกำมะหยี่ แค่นี้ก็ทำให้บ้านของคุณดูดีมีราคาแล้ว 3.)โทนสีหลากหลาย สำหรับสีที่ใช้ในการตกแต่งบ้านนั้นมีให้เลือกใช้ได้หลากหลายแบบหลายสไตล์ โดยเราสามารถนำสีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ได้ทั้งกับผนัง เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน และของใช้ในบ้านเลย ซึ่งตัวอย่างสีที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะฮิต มีดังนี้ - สีฟ้าน้ำทะเล : เป็นสีที่ให้ทั้งความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย สบายใจ [...]

4 วิธีแต่งบ้านไม่ตกเทรนด์2021-01-28T13:30:16+07:00

6 จุดอันตรายแหล่งเพาะเชื้อภายในบ้าน

2021-01-28T13:29:37+07:00

ต้องบอกเลยว่าในสถาณการณ์ปัจจุบันนี้เชื้อโรคสิ่งสกปรกมีอยู่ทุกทิศทุกทางไม่เว้นแต่บ้านของเราเอง ซึ่งในบริเวณบ้านของเรานั้นก็จะมีอยู่หลายๆจุดที่เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคเลยก็ว่าได้ วันนี้ Rainbow จะพามาดูจุดอันตรายแหล่งเพาะเชื้อภายในบ้านกัน 1. ตู้เก็บรองเท้า สำหรับตู้เก็บรองเท้า ต้องบอกบอกไว้เลยว่าเป็นแหล่งที่พวกสัตว์หลายๆชนิดชอบมาอยู่เลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็น ยุง หรือสัตว์เลื้อยคลานอื่นๆมากมาย เช้น งู ตระขาบ แมงป่อง และอีกมากมาย ดังนั้นเราควรทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ นำรองเท้าที่เก็บไว้ในตู้รองเท้ามาทำความสะอาดบ่อยๆ 2. เตียงนอน บนเตียงนอนของเรานั้นหลายคนอาจจะคิดว่าสะอาดและปลอดภัย ซึ่งความเป็นจริงอาจเป็นที่อยู่อาศัยของไรฝุ่นและเชื้อโรคที่ทำให้เราเป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด ดังนั้นเพื่อสุขอนามัยที่ดี เราควรทำความสะอาดที่นอน ด้วยการตากแดดหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันเชื้อโรคเหล่านี้ 3. กองผ้า/สิ่งของ การมีกองผ้าหรือสิ่งของวางไว้ให้รกบ้านเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ มด หนู แมลงสาบ ออกมากันเยอะ ซึ่งการปล่อยปละละเลยทำให้บ้านรกด้วยข้าวของที่กองสุมกันไว้ โดยเฉพาะหากอยู่ในที่มืดหรือที่อับชื้น ยิ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยน่าอบอุ่นของสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยเหล่านี้ 4.ใต้บันได ภายในบ้านย่อมมีมุมมืดหรือมุมอับที่แสงสว่างส่องไม่ถึง และกลายเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เล็กสัตว์น้อย เช่น หนูหรือแมลงสาบ รวมถึงสัตว์มีพิษอันตราย เราควรสำรวจตรวจตราให้ทั่วถึง เช่น มุมใต้บันได หรือมุมที่แสงสว่างไม่เพียงพอ อาจติดดวงไฟเพิ่มเติม เพื่อให้ปลอดภัยจากสัตว์มีพิษก็ได้ 5 เฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากฟอร์นิเจอร์ของเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นโซฟาในห้องนั่งเล่นยังมีซอกหลืบที่ไม่ได้สัมผัสร่างกายเราโดยตรง ทำให้เกิดฝุ่นสะสมภายใน กลายเป็นความสกปรกได้ [...]

6 จุดอันตรายแหล่งเพาะเชื้อภายในบ้าน2021-01-28T13:29:37+07:00

ทำความรู้จักกับ กระเบื้อง SPC

2021-01-22T14:43:25+07:00

หลายต่อหลายคนคงเคยได้ยิน ชื่อ "พื้นไม้ไวนิล SPC" อยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นกระเบื้องที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก วันนี้ Rainbow จะพามารู้จักกับ พื้นไม้ไวนิล SPC กันครับ สำหรับพื้นไม้ไวนิล SPC ย่อมาจาก Stone Plastic Composite ผลิตจาก UPVC เพิ่ม แคลเซียม เป็นวัสดุที่พัฒนาเพื่อให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น สวยงาม แข็งแรง มีความทนทานต่อแสงแดด ความชื้นและสภาพอากาศภายนอก จึงมีความทนทานกว่า PVC และพลาสติกประเภทอื่นๆ ไม่มีปัญหาเรื่องปลวก และแมลง ไม่ผุกร่อนจากความชื้น ไม่หด ขยายตัวตามสภาพอากาศ ไม่กรอบแตก ไม่เปลี่ยนรูปแบบเปลี่ยนสี สามารถคงรูปได้ตลอดอายุการใช้งาน และที่สำคัญคือ ไม่มีช่องว่างตามรอยต่อ นวัตกรรมใหม่ที่เพิ่มคุณสมบัติเด่น สามารถกันน้ำได้ 100% แม้มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน มีพื้นผิวสัมผัส (Texture) ที่เหมือนพื้นไม้จริงไม่ลื่น มีความปลอดภัยเป็นมิตรต่อคน สัตว์และสิ่งแวดล้อม จึงทำให้ติดตั้งในห้องน้ำหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูงได้ หมดกังวลเรื่องการยืดตัวหดตัวของพื้น SPC มีลวดลายและสีสันที่ให้อารมณ์ความเป็นธรรมชาติ มีความแข็งแรง ทนทาน และไม่เป็นที่ลุกลามของไฟ [...]

ทำความรู้จักกับ กระเบื้อง SPC2021-01-22T14:43:25+07:00

ความหนาของกระเบื้องยาง

2021-01-22T13:37:27+07:00

ในปัจจุบันกระเบื้องยางเป็นที่นิยมในหมู่คนจำนวนมาก แต่ก็มีหลายคนนะครับที่ไม่รู้วิธีเลือกกระเบื้องยางโดยเฉพาะความหนาของกระเบื้องยาง Rainbow Decor Expert จะพามาดูว่าความหนาของกระเบื้องยางนั้น ควรเลือกยังไ? กระเบื้องยาง มีความหนาโดยประมาณ ที่ 2,3 และ 4 มิลลิเมตร มีทั้งแบบติดตั้งด้วยการทากาว และ แบบติดตั้งด้วยระบบเข้าลิ้นคลิ๊ก หรือ Click Lock (ซึ่งในระยะหลัง กระเบื้องยางระบบคลิ๊กเป็นที่นิยมมาก เนื่องจาก ความทนทานมากกว่า และ ดูแลรักษาง่ายกว่า) ในขณะที่ความหนาของพื้นไม้ลามิเนต จะอยู่ที่ 8 มิลลิเมตร และ 12 มิลลิเมตร เท่านั้น โดยพื้นไม้ลามิเนต จะติดตั้งด้วยระบบเข้าลิ้นอย่างเดียว และ ต้องรองด้วยฟิล์มโฟมรองพื้น (หรือโฟมลามิเนต) ก่อนติดตั้งเท่านั้น ดังนั้น พื้นกระเบื้องยางที่บางกว่า ทำให้การเตรียมพื้น สำหรับติดตั้งพื้นกระเบื้องยางจะต้องเนี๊ยบกว่า คือ จะต้องเป็นพื้นปูนขัดมันเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้ว พื้นไม้ลามิเนตจะผลิตเฉพาะลายไม้ เท่านั้น แต่ว่านอกจากลายไม้แล้ว กระเบื้องยางยังมีลายหิน ลายพื้น เช่นสีฟ้า สีเทา [...]

ความหนาของกระเบื้องยาง2021-01-22T13:37:27+07:00

วัสดุปูพื้น ที่ไม่ต้องรื้อพื้นเดิมออก

2021-01-22T13:23:56+07:00

หากคุณกำลังเบื่อ วัสดุปูพื้น ห้องแบบเดิมๆ แต่ไม่อยากยุ่งยากกับการต้องสกัดแผ่นกระเบื้องเก่าออกให้ยุ่งยากและเลอะเทอะ บางคนอยู่อาศัยในคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ที่อาจไม่สะดวกต่อการรื้อถอน  เรามีวิธีมาแนะนำก็คือ การปูวัสดุใหม่ทับพื้นเดิมไปเลย ซึ่งก็มีเทคนิคและวิธีการแตกต่างกันไป 1.ปูกระเบื้องทับพื้นเดิม วิธีการนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมในการรีโนเวตคอนโดหรือห้องพักที่ไม่สามารถรื้อกระเบื้องเก่าออกได้ง่ายนัก หรือไม่ต้องการสร้างฝุ่นและเสียงดังให้ต้องเก็บกวาดในภายหลัง วิธีการ การปูกระเบื้องทับพื้นเดิมเริ่มจากการลงน้ำยารองพื้นพอลิเมอร์สำหรับปูกระเบื้องก่อน จากนั้นสำรวจพื้นกระเบื้องเดิมที่มีความเสียหาย ให้สกัดออกแล้วจึงใช้กาวซีเมนต์เติมลงไปในช่องวาง สุดท้ายจึงปูกระเบื้องใหม่ด้วยกาวซีเมน 2. ปูกระเบื้องไวนิลทับพื้นเดิม กระเบื้องไวนิลหรือกระเบื้องยางเป็นวัสดุอีกชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ปูพื้นห้องพัก ด้วยความสะดวกและลวดลายที่มีให้เลือกหลากหลาย รวมถึงให้สัมผัสนุ่มนวล ปัจจุบันกระเบื้องชนิดนี้สามารถติดตั้งได้ง่ายกว่าแต่ก่อนมากเพราะมีทั้งกาวอะคริลิกที่ติดตั้งง่ายกว่ากาวยาง และกระเบื้องแบบคลิกล็อกที่ไม่ต้องใช้กาวซึ่งเจ้าของบ้านสามารถทำได้ด้วยตัวเอง วิธีการ ใช้ปูนกาวปรับรองกระเบื้องเดิมให้เรียบ เพื่อไม่ให้กระเบื้องยางหักเมื่อปูทับร่อง รอจนปูนกาวแห้งจึงลงกาวอะคริลิกโดยใช้เกรียงหวีเพื่อความเรียบของเนื้อกาวก่อนจะเริ่มปูกระเบื้องไวนิลจากบริเวณประตูเข้าไป หรือหากว่าเป็นแบบคลิกล็อกก็สามารถติดตั้งโดยการสอดลิ้นของกระเบื้องแต่ละแผ่นเข้าด้วยกันได้ทันที 3.ปูพื้นไม้ลามิเนตทับพื้นเดิม เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กระเบื้องไวนิล พื้นไม้ประเภทนี้ให้สัมผัสการเดินที่คล้ายพื้นไม้เพราะมีชั้นของไม้อัดรวมอยู่ในวัสดุด้วย แต่อาจต้องระวังเรื่องน้ำและความชื้นอยู่บ้าง วิธีการ ปูแผ่น Underlay ทับกระเบื้องเดิมเพื่อปรับพื้นเดิมให้เรียบเสมอกัน แผ่น Underlay ยังลดเสียงกระทบเวลาเดินและให้ความรู้สึกนุ่มนวลต่อการเดินมากขึ้นอีกด้วย จากนั้นจึงวางแผ่นพื้นไม้ลามิเนตลงไปโดยปูเข้าลิ้นกันไปตามความยาวของห้อง ควรเว้นร่องจากผนังทุกด้านเอาไว้ 1 เซนติเมตรเผื่อในกรณีพื้นไม้ลามิเนตขยายตัว จากนั้นจึงติดตั้งบัวพื้นหรือตัวกันขอบก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย Rainbow Decor Expert

วัสดุปูพื้น ที่ไม่ต้องรื้อพื้นเดิมออก2021-01-22T13:23:56+07:00

ค่ากันลื่นของพื้นกระเบี้อง

2021-01-22T13:19:51+07:00

ในการเลือกใช้กระเบื้องปูพื้น ทั้งภายในและภายนอกในส่วนต่างๆ นั้น มีความต้องการ และข้อควรคำนึงแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ แต่ไม่ว่าจะในพื้นที่ใด การคำนึงถึงความปลอดภัยขณะใช้งาน ก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญและขาดไม่ได้ โดยเฉพาะในบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งมักจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากเป็นพิเศษ “ค่ากันลื่น” ของพื้นกระเบื้องจึงเป็นตัวช่วยตัดสินใจในการเลือกใช้กระเบื้องได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ค่ากันลื่น (Slip Resistance) หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า ค่า R เป็นค่าที่ใช้วัดคุณสมบัติการกันความลื่นของพื้นผิววัสดุแต่ละประเภท ได้มาจากการทดสอบ Ramp Test โดยการปูกระเบื้องบนทางลาดชันในระดับองศาที่ต่างกัน เพื่อทดสอบความหนืดของพื้นผิวกระเบื้อง ซึ่งถ้าหากองศาความลาดชันเพิ่มขึ้น ระดับของค่า R ของแต่ละพื้นผิวจะสูงขึ้นตามไปด้วยโดยมาตรฐานที่ใช้อ้างอิงอาจแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น มาตรฐานเยอรมนี DIN 51130 และมาตรฐานของออสเตรเลีย AS 4586-2013 จะวัดค่ากันลื่นโดยใช้ค่า R (R Value) มีระดับตั้งแต่ R9 - R13 ยิ่งตัวเลขมากจะยิ่งกันความลื่นได้มาก โดยมีการแบ่งระดับของค่า R ตามองศาและพื้นที่การใช้งาน ดังนี้ - R9 เป็นค่าต่ำสุดสำหรับเลือกใช้กระเบื้องที่มีความหนืดในการปูพื้นที่ 3-10 องศา สำหรับใช้ในพื้นที่สาธารณะโซนแห้งทั่วไป เช่น ห้องโถง ทางเดิน - R10 เป็นค่าสำหรับการเลือกใช้กระเบื้องในบริเวณที่ต้องเปียกน้ำ ในระดับความหนืดของพื้นที่ที่ 10-19 องศา เช่น ในห้องน้ำ [...]

ค่ากันลื่นของพื้นกระเบี้อง2021-01-22T13:19:51+07:00

ทำความรู้จักกับ Wear layer

2021-01-22T12:59:04+07:00

หลายคนคงเคยได้ยินกับ คำว่า "Wear layer" ซึ่งมันคืออะไร และประกอบไปด้วยอะไรบ้าง มาดูกันครับ Wear layer คือชั้นกันสึก ชั้นนี้เป็นชั้นสำคัญที่จะป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผิวหน้า โดยทั่วไปมักจะผสม พีวีซีที่มีคุณสมบัติแข็งและเหนียวเป็นพิเศษ ไว้เพื่อใช้ทำชั้นนี้โดยเฉพาะ (Layer)ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบด้วยชั้น 5 ชั้นหลักๆ คือ 1. Coating Layer ชั้นของสารเคลือบป้องกัน เช่นสารเคลือบกันรังสียูวี ป้องกันการซีดจางของสีผิว สารป้องกันรอยขีดข่วน ป้องกันผิวหน้าเป็นรอย และสาร เคลือบแข็งอื่นๆเพื่อความแข็งแรงของแผ่น ซึ่งบางยี่ห้อจะผสมสารกันไฟทนร้อนเข้าไปขึ้นอยู่กับกรรมวิธีของแต่ละโรงงาน 2. Wear Layer ชั้นกันสึก ชั้นนี้เป็นชั้นสำคัญที่จะป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผิวหน้า โดยทั่วไปมักจะผสม พีวีซีที่มีคุณสมบัติแข็งและเหนียวเป็นพิเศษ ไว้เพื่อใช้ทำชั้นนี้โดยเฉพาะ 3.Color sheet Layer ชั้นนี้จะเป็นสีสรร ของแผ่นพื้นโดยตรงคือ จะเป็นชั้นที่สร้างสวยงามให้แผ่นไวนิล โดยเฉพาะมีให้เลือกหลากหลายทั้งสีลายของหิน สีลายไม้ สีพื้น สีปูนเปลือย สีสไตล์ล้อฟท์ และอื่นๆ 4. Mid Layer หรือบางที่เรียก Balance Layer [...]

ทำความรู้จักกับ Wear layer2021-01-22T12:59:04+07:00

พื้นบ้านมีปัญหา

2021-01-21T06:39:31+07:00

เมื่อคุณเรื่มสำรวจว่าพื้นบ้านของคุณเริ่มหมดอายุการใช้งานมีปัญหา คุณจะพบตัวเลือกต่างๆมากมายที่จะใช้งาน แต่แบบไหนละ? ที่จะตรงตามความต้องการของคุณ คำถามและคำตอบเหล่านี้ จะช่วยจัดสรรความคิดให้แคบลง พื้นกระเบื้องยางไวนิลRainbow Luxury vinyl หรือ LVT คืออะไร? พื้น LVT นั้นยอดเยี่ยมมากหากคุณมีบ้านใช้งนได้กับเด็กหรือสัตว์เลี้ยง คุณต้องการที่จะให้มันสวยงาม คุณอาจจะเคยได้ยินคำว่ากระเบื้องยางไวนิลแบบคลิกล๊อคที่กำลังเป็นที่นิยม โครงสร้างคือชั้นการสึกหรอชั้นแกนกลางที่สามารถยืดหยุ่นและรองรับน้ำหนัก มีความหนาและทนทาน กันน้ำได้ 100% เวลาโดนน้ำ จะไม่บวม หรือ เกิดความเสียหาย พูดถึงเรื่องความทนทาน กระเบื้องยางไวนิล LVT ถูกสร้างขึ้นเพื่อทนทานต่อการใช้งาน กันรอยขีดข่วน ผลิตภัณฑ์ LVT ของ Rainbow ยังมีการรับประกัน 10 ปี แล้วบ้านแบบไหนละเหมาะกับ พื้นกระเบื้องยาง LVT กระเบื้องยาง LVT ถูกออกแบบให้สามารถติดตั้งง่ายและคุ้มค่าทำให้กระเบื้องยางLVT เป็นที่ชื่นชอบในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอย ห้องครัว ห้องเด็ก ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และได้ความเป็นธรรมชาติ สมจริง การปูพื้นแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ [...]

พื้นบ้านมีปัญหา2021-01-21T06:39:31+07:00

Title

Go to Top